“สักคิ้ว” การเสริมความงามสำหรับผู้ที่ไม่มีขนคิ้ว หรือคิ้วน้อย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คิ้ว มีความสำคัญกับองค์ประกอบของหน้า วลีดังที่ว่า เพราะคิ้ว คือ มงกุฎ ของหน้า จึงเป็นข้อเท็จจริงที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้เลย อย่างไรก็ดี ใช่ว่าเราทุกคนจะเกิดมามีคิ้วที่เท่ากันทุกคน บางคนเกิดมามีขนคิ้วที่ดก หนา ก็ดีไป แต่ในบางคน ก็มีขนคิ้วที่น้อย หรือไม่มีเลย จะจัดทรงหรือแต่งหน้าก็ยาก แถมยังทำให้สูญเสียความมั่นใจอีกด้วย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะแก้ไขอย่างไรดีให้เรากลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้ง

“สักคิ้ว” คืออะไร มีกี่แบบ ใครเหมาะกับการสักที่คิ้วบ้าง?

การสักที่คิ้ว แม้ไม่ใช่วิธีการใหม่ แต่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเพิ่มเทคนิคให้ดูสมจริงและมีมิติมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การสักเป็นเทคนิคเสริมความงาม ซึ่งไม่ได้ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ ไม่ใช่การรักษาหรือบำบัด เป็นการให้บริการในสถานประกอบการนอกโรงพยาบาล ผู้ที่ต้องการสักคิ้วจึงควรศึกษาข้อมูลและวิธีการให้ดีก่อนตัดสินใจ

ประเภทของการสักคิ้ว อะไรบ้าง แต่ละแบบเหมาะกับใคร?

โดยทั่วไปแล้ว สักที่คิ้ว มีสองแบบ คือแบบลายเส้น และแบบทึบ แต่ในแบบของการสักคิ้วแบบลายเส้นจะแบ่งออกไปอีกเป็นการสักคิ้วแบบ 3D และ 6D และสำหรับการสักคิ้วแบบสักทึบจะไม่มีลายเส้น เป็นการสักแบบสไลด์นั่นเอง ซึ่งการสักที่กล่าวมา มีข้อแตกต่างกัน ดังนี้

สักแบบ 3D

การสักคิ้วแบบสามมิติ คือการสักแบบใช้หลักการวาด (Drawing) สร้างงานลายเส้น จะเห็นเป็นเส้นขนคิ้วที่คมและชัด เหมือนมีคิ้วตั้งแต่เกิด มีความติดทนอยู่ได้นาน

ผู้ที่เหมาะกับการสักแบบ 3D

การสักเช่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ คิ้วสายฝอ ชอบคิ้วแบบเข้มๆ แทบไม่ต้องเติมหรือแต่งเพิ่มอะไรเลย ซึ่งจะทำให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น

สักแบบ 6D

ใช้วิธีการสักแบบเดียวกับแบบ 3 มิติ เพียงแต่สไตล์ของการสักนั้นจะทำให้ได้เส้นของขนคิ้วที่บางกว่า จึงทำให้ดูเป็นธรรมชาติกว่า เหมือนไม่ได้สัก อีกทั้งยังติดทนนาน ไม่แพ้การสักแบบ 3 มิติอีกด้วย

ผู้ที่เหมาะกับการสักแบบ 6D

การสักเช่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้คิ้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เข้มจนเกินไปแต่ก็ไม่บางจนเกินไปด้วย หากต้องการแต่งหน้า สามารถลงเพิ่มได้อีกตามความต้องการ

สักแบบ Slide

เป็นการสักคิ้วที่สักให้เหมือนกับการเขียนคิ้ว โดยไล่สีหัวคิ้วให้จาง ส่วนหางคิ้วจะมีสีเข้มกว่า ว่ากันง่ายๆ ก็เหมือนตอนที่เราใช้ดินสอเขียนคิ้วนั่นเอง

ผู้ที่เหมาะกับการสักแบบ Slide

การสักรูปแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ชอบแต่งหน้าเขียนคิ้ว ชอบความคมเข้มดูมีมิติ ไม่ต้องเสียเวลามานั่งวัดคิ้ว ขึ้นโครง ละเลงดินสอเขียนคิ้วให้ยุ่งยากทุกเช้า

สักคิ้ว เจ็บไหม?

เป็นคำถามที่ผู้กำลังตัดสินใจสักค่อนข้างกังวลกันมาก เนื่องจากการสักเป็นการนำเข็มที่นำสีมาลงตรงผิวหนัง อย่างไรก็ดี การสักนั้น ก็จะมีความเจ็บ แต่สามารถทนได้ เพราะในการสักบริเวณคิ้ว ช่างจะทำการลงยาชาแบบครีมเสียก่อน แล้วจึงทำการสักให้ โดยจะเป็นความรู้สึกคล้ายการหยิกเบาๆ แต่หากใครที่รู้สึกเจ็บมากนั้น นั่นแปลว่าช่างไม่มีความชำนาญมากพอ ดังนั้น การเลือกช่างจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ข้อจำกัดของการสักที่บริเวณคิ้ว มีอะไรบ้าง?

แม้จะดูเป็นการเสริมความงามที่ง่าย แต่การสักที่คิ้วก็มีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึงอยู่มากพอควร ดังนี้

หากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ต้องแก้ไขด้วยเลเซอร์ลบรอยสัก

หากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ในกระบวนการสัก ผู้ที่สักต้องแก้ไขด้วยเลเซอร์ลบรอยสัก ซึ่งก่อให้เกิดความยุ่งยาก และอาจไม่สามารถลบรอยสักออกไปได้ทั้งหมด

การสักที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่สะอาดและไม่ปลอดภัย

การสักที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่สะอาดและไม่ปลอดภัย หรือแม้แต่ในช่วงการดูแลตนเองหลังการสัก อาจเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น การอักเสบ การติดเชื้อต่างๆ เป็นต้น

ผู้ที่จะสักคิ้วต้องมีอายุอยู่ในช่วงที่เหมาะสม 

ผู้ที่จะสักคิ้วต้องมีอายุอยู่ในช่วงที่เหมาะสม สามารถดูแลรับผิดชอบตนเองได้ เนื่องจากการสักคิ้วมีค่าใช้จ่ายในการสัก และหากเกิดผลข้างเคียงหรือไม่เป็นที่พอใจ การลบรอยสักหรือการรักษาล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายสูงทั้งสิ้น การสักคิ้วเป็นการเสริมความงามที่ส่งผลในระยะยาว ควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจสัก

ไม่มีการรับรองผลทางการแพทย์

การสักคิ้วเป็นการเสริมความงาม ไม่ใช่การบำบัดรักษาทางการแพทย์ จึงไม่มีการรับรองทางการแพทย์ใดๆ ว่าจะได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจตามมา

สีที่ปรากฏในรอยสักนั้น จะค่อยๆ จางลง

แม้จะเป็นการสักถาวร แต่สีที่ปรากฏในรอยสักนั้น จะค่อย ๆ จางลงเมื่อเวลาผ่านไป ผู้ที่สักคิ้วจึงอาจต้องไปสักซ้ำเรื่อยๆ

การสักบริเวณคิ้วอันตรายหรือไม่ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า ก่อนสักช่างจะป้ายยาชาและทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์เต็มที่ จากนั้นช่างจึงลงมือสัก โดยอาจให้ยาชาซ้ำระหว่างการสัก ซึ่งเป็นยาชาที่ออกฤทธิ์ได้ทันที ดังนั้นจึงไม่รู้สึกเจ็บ หรืออาจเจ็บเพียงเล็กน้อย

ทั้งนี้การสักคิ้วอาจเสี่ยงติดเชื้อได้ หากสถานที่ และอุปกรณ์ไม่สะอาด หรือช่างสักไม่มีความชำนาญเพียงพอ ก็อาจทำให้คิ้วของคุณไม่สวยได้รูปตามที่ตั้งใจไว้ ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียด ดังนี้

ผลข้างเคียงและความเสี่ยงจากการสักที่คิ้ว

แม้จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้น้อย แต่หลังจากการสักแล้ว ผู้เข้ารับบริการต้องหมั่นเช็กอาการของตนเอง และเช็กที่คิ้วว่ามีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง เนื่องจากหากมีสิ่งผิดปกติ จะได้ปรึกษาแพทย์และเข้ารับการรักษาได้ทัน

โดยผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังจากการสักคิ้ว ได้แก่

มีรอยแผลเป็น 

หรือมีเนื้อเยื่อก่อตัวเป็นแผลเป็นขึ้นจำนวนมาก

ติดเชื้อ 

โดยเฉพาะเชื้อต่างๆ ที่เป็นอันตราย เช่น ติดเชื้อเอชไอวี ติดโรคไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น

เกิดการอักเสบ 

หรือเกิดตุ่มเนื้ออักเสบเล็กๆ นูนขึ้นใต้ผิวหนังรอบๆ รอยสัก

ผิวหนังเกิดอาการแพ้

เช่น บวม คัน มีรอยแตก ผิวลอกออก หรือมีตุ่มพองใส

วิธีดูแลตนเองหลังสักบริเวณคิ้ว

การสักจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังการสักจะเป็นแค่รอยคิ้วเข้ม โดยสามารถกลับบ้านได้ทันที แต่ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการสักไม่ควรให้คิ้วโดนน้ำและแสงแดดโดยตรง จึงควรใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดหน้า เมื่อแผลสักเริ่มเป็นสะเก็ดก็ห้ามแกะออก เพราะอาจทำให้สีที่สักไว้หลุดตามมาด้วย ควรปล่อยให้สะเก็ดหลุดออกมาเอง นอกจากนี้ต้องทายาตามคำแนะนำของช่างสักอย่างสม่ำเสมอด้วย โดยแผลจากการสักจะหายภายใน 10-15 วัน และจะกลายเป็นสีติดถาวร

ท้ายที่สุด ผลข้างเคียงที่จะเกิดหลังการสักอาจมีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงเล็กน้อย เช่น เกิดการอักเสบหรือเป็นแผลนูนและบวมคัน เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ควรปรึกษาช่างสัก เพราะบางคนอาจเกิดอาการแพ้หมึกได้ อย่างไรก็ตาม การสักคิ้วก็นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องคิ้วของหลายๆ คน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเขียนคิ้วบ่อยๆ อีกทั้งยังช่วยให้ใบหน้าดูสวยงาม คมเข้มขึ้นด้วย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วิธีดูแลหลังสัก

หลังสักคิ้วโดนน้ำได้หรือไม่?

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

CAPTCHA